น่าเสียดาย ถึงเข้าขั้นผิดหวังเล็กน้อยกับ Python ที่เมื่อติดตั้งไม่มีตัวจัดการ Package ต่าง ๆ มาให้เนื่องจากตัว Package ที่มากับตัวภาษาเองก็ไม่เพียงพอกับการพัฒนาโปรแกรมที่ต้องการ Package ที่ต้องการก็มีอยู่มากมายให้เลือกใช้แต่การติดตั้งนั้นบางทีก็ดูเหมือนจะไม่ได้ออกแบบมาอย่างดีสร้างความยากลำบากแก่มือใหม่ไม่ใช่น้อย การติดตั้ง Package ก็มีได้หลายวิธีใช้งานยากง่ายต่างกันไปดังนี้
การติดตั้งเองทุกขั้นตอน
วิธีการลงมือเองทุกอย่าง ก็ไม่ยากถ้ามีความคุ้นเคยส่วนใหญ่ก็จะทำตามวิธีนี้
- ดาวน์โหลด Package ที่ต้องการใช้งานมาจากอินเตอร์เน็ต
- สั่งติดตั้งด้วยคำสั่ง python setup.py install จาก โฟลเดอร์ของ Package
วิธีการนี้ดีตรงที่ไม่ต้องใช้อะไรเพิ่มเติมยกเว้นโมดูล distutils ที่มากับไลบราลี่พื้นฐานของ Python อยู่แล้วส่วนข้อเสียก็อยู่ตรงที่ถ้าหาก Package นั้นต้องการโมดูล หรือ Package อื่น ๆ (dependencies) เพื่อติดตั้งคุณจะต้องไปไล่ติดตั้งโมดูล หรือ Package เหล่านั้นตามลำดับเอง และถ้าหากจะถอนการติดตั้งก็ต้องถอนเอง ซึ่งสำหรับมือใหม่ก็คงไม่ง่ายนัก
วิธีการ easy_install
เพื่อให้การติดตั้ง Package ง่ายขึ้นไม่ต้องทำเองทั้งหมดจึงมีเครื่องมือช่วยติดตั้งเกิดขึ้นมามีชื่อว่า Setuptools และ eays_install ตัว Setuptools เองก็เป็น Package นึงทำหน้าที่อ่านไฟล์เซ็ตอัพและตั้งค่าของ Package ที่ต้องการติดตั้ง (.egg) ส่วน easy_install ก็ทำหน้าที่ดาวน์โหลดและติดตั้ง Package พร้อมด้วยการติดตั้ง Package ที่เป็น dependencie ให้อัตโนมัติด้วย เวอร์ชั่นก่อน ๆ จะต้องติดตั้งผ่าน Package distribute สำหรับเวอร์ชั่นล่าสุดสามารถไปดาวน์โหลด ez_setup.py จาก
https://pypi.python.org/pypi/setuptools แล้วสั่งรันเพื่อติดตั้งได้เลย จะได้ easy_install.exe อยู่ในโฟลเดอร์ของ Python ที่ติดตั้งไว้ในเครื่องเลย อย่าลืมเพิ่มโฟลเดอร์ที่ไฟล์อยู่ไปที่ path ของระบบด้วยเพื่อจะได้เรียกใช้ได้ง่าย ๆ ด้วยการเรียกใช้งานก็ง่ายมากสามารถสั่ง easy_install Package_Name ได้เลย
คำตอบสุดท้าย pip
เหนือกว่า easy_install ยังมี pip เจ้า pip นี่จะทำหน้าที่ช่วยจัดการ Package ต่างได้อย่างง่ายขึ้นลองดูข้อดีของ pip กัน
- ดาวน์โหลดไฟล์ Package ที่จำเป็นทั้งหมดมาให้ก่อนติดตั้ง ป้องกันการติดตั้งไม่สำเร็จ
- ตรวจสอบ dependencies ของ Package ที่จะติดตั้งและติดตั้ง Package ที่ต้องการทั้งหมด
- แสดงข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นช่วยให้แก้ปัญหาการติดตั้งได้ง่ายขึ้น
- ช่วยเรื่องการถอนการติดตั้ง Package
การติดตั้ง pip
- ติดตั้ง Setuptools ก่อน
- ดาวน์โหลด get-pip.py
- สั่งรัน python get-pip.py เพื่อติดตั้ง pip
การใช้งานก็สามารถใช้คำสั่ง pip install Package_Name ได้เลยไม่ยาก ของแบบนี้ต้องลอง แต่กว่าจะทำสำเร็จเองนี่ใช้เวลาเหมือนกันนะลองมาหลายอย่างตั้งแต่ลง distribute เลยลองไปลองมาก็ได้ใช้ pip ในที่สุด แต่การติดตั้งแบบตัวอย่างนี้จะมีข้อเสียสำหรับการพัฒนาอยู่ตรงที่วิธีการนี้เป็นการติดตั้งแบบ global ทำให้ถ้าการพัฒนางานหลายงานที่ใช้ Package เวอร์ชั่นไม่เท่ากันจะทำไม่ได้ ถ้าจะให้สะดวกจะต้องเพิ่ม Package อีตัวนึงคือ virtualenv เพื่อจัดการให้แต่ละงานแยกส่วน environment กันไปและแยก Package แต่ละเวอร์ชั่นออกจากกันจะสะดวกกับการพัฒนางานมากกว่า ถ้าหากท่านใดได้ลองอ่านบทความนี้แล้ว ดีหรือไม่ดีอย่างไรสามารถแสดงความเห็นได้นะ